ถึงแม้ว่ายอดขายและผลกำไรของบริษัทฯ จะลดลงบ้างตามภาวะตลาด คณะกรรมการยังมีความเห็นว่า กระแสเงินสดของบริษัทฯ ยังดีอยู่ และฐานะการเงินของบริษัทฯ ก็ยังมีความมั่นคงอย่างไม่เปลี่ยนแปลง จึงมีมติให้จ่ายเงินปันผลครึ่งหลังของปี 2567 เพิ่มขึ้นอีก 24 สตางค์ รวมเป็นเงินปันผลทั้งปี 50 สตางค์ ลดลงจากปีที่แล้วเพียงเล็กน้อย ในการจ่ายเงินปันผลครั้งนี้อัตราเงินปันผลต่อกำไรจะสูงถึง 86.21% แต่ก็ยังน่าจะยอมรับได้ภายใต้สถานการณ์การเงินที่มั่นคงอย่างในปัจจุบัน
ภายใต้ภาวะกดดันทางธุรกิจอย่างในปีนี้ ฝ่ายบริหารก็ไม่ได้หยุดยั้งที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินการขยายกำลังผลิตที่สำคัญ 3 โครงการดังนี้
(1) ขยายกำลังการผลิตกระเบื้องคอนกรีตโดยใช้งบประมาณ 474.96 ล้านบาท ทำให้ผลิตกระเบื้องคอนกรีตได้เพิ่มขึ้นอีก 22.8 ล้านแผ่นต่อปี และครอบคอนกรีตอีก 1.2 ล้านชิ้นต่อปี โครงการนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2567
(2) ติดตั้งการผลิต Truss อีกสายการผลิต เพื่อรับกับกำลังการผลิตของกระเบื้องคอนกรีตที่เพิ่มขึ้น โดยได้ดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2567 เช่นกัน
(3) โครงการขยายกำลังผลิตอิฐมวลเบา โดยเพิ่มกำลังผลิตอีก 2 ล้านก้อนต่อปี ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 648 ล้านบาท ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 80% และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พฤษภาคม 2568
นอกจากนั้นยังมีโครงการแก้ไขปรับปรุงเครื่องจักรและกระบวนการผลิตอีกมากมายที่มีผลให้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพิ่มคุณภาพของสินค้า ลดการใช้วัตถุดิบและต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง และ Logistics ทั้งหลายอีกด้วย
คณะกรรมการมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถดูแลรักษาให้กิจการของบริษัทฯ ดำเนินการไปได้อย่างจีรังยั่งยืนตลอดไป และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจในปีหน้าและปีต่อๆ ไปได้ดีกว่าปีนี้ และขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนที่ให้การสนับสนุน และกำลังใจมาโดยตลอด
นายประกิต ประทีปะเสน
ประธานกรรมการ