Call Center 02 619 2333ไทย | ENGLISH
ข้อมูลสำหรับ
นักลงทุน
ข้อมูลสำหรับนักลงทุน
เมนู
สารจากประธานกรรมการ

ในทศวรรษที่ผ่านมาปี 2566 นับเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างรุนแรงที่สุด อันที่จริงการสงบลงของโรคโควิด 19 น่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแล้ว แต่สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน กลับมาทำให้ทรุดลงไปอีก หลังจากนั้นยังมีสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัญหาเรื่องราคาน้ำมันและค่าขนส่งทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรงทั่วโลก ถึงแม้ว่าประเทศเราจะโชคดีที่ไม่เจอกับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงเท่ากับประเทศตะวันตก แต่ก็ได้รับผลกระทบทางด้านต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่เกิดการขาดแคลนและราคาสูงขึ้นอย่างผิดปกติ วัตถุดิบที่ส่งมาจากประเทศตะวันตกบางอย่างราคาสูงขึ้นถึงร้อยละ 36 ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นประมาณร้อยละ 15 ทำให้ราคาปูนซีเมนต์ที่เป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทฯ ต้องปรับราคาขึ้นไปประมาณร้อยละ 20 ทั้งหมดนี้ทำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทฯ สูงขึ้นมาก ผู้บริหารได้พยายามทุกวิถีทางที่จะดูแลปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่แสวงหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ เจรจาต่อรองราคา ปรับปรุงการใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดขึ้น เป็นต้น แต่ก็ทำได้ระดับหนึ่งเท่านั้น ในที่สุดก็ต้องปรับราคาขายสินค้าบางประเภทตามความจำเป็น ทำให้มีผลกระทบกับการขายสินค้าของบริษัทฯ ยังโชคดีที่ลูกค้าและผู้บริโภคเข้าใจสถานการณ์และความจำเป็นของบริษัทฯ และยอมรับการปรับราคาด้วยดี

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ ด้วยความวิริยะอุตสาหะของผู้บริหารและพนักงานทุกคน บริษัทฯ สามารถบรรลุยอดขายสินค้าและบริการที่ 5,631.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.63 จากยอดขายของปี 2565 ที่มีจำนวน 5,232.11 ล้านบาท โดยเหตุผลของต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวข้างต้น ทำให้มีกำไรสุทธิที่ 623.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.93 จากกำไรสุทธิของปี 2565 ที่มีจำนวน 618.15 ล้านบาท (เป็นกำไรสุทธิที่ไม่รวมรายการพิเศษจากการกลับรายการสำรองด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อย) ซึ่งต่ำกว่าอัตราเพิ่มขึ้นของยอดขายมาก อย่างไรก็ตามคณะกรรมการเห็นว่าบริษัทฯ ยังมีงบกระแสเงินสด และงบแสดงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีปัญหาในด้านความสามารถในการชำระหนี้ จึงได้มีมติให้เสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลปี 2566 ในอัตรา 0.52 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปีก่อน

ในด้านการผลิต บริษัทฯ ก็ได้ใช้กำลังการผลิตในอัตราที่สูงมาตลอดจนต้องขยายกำลังการผลิตสำหรับบางผลิตภัณฑ์ โครงการขยายกำลังการผลิตกระเบื้องคอนกรีตที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2565 ได้คืบหน้าไปแล้วประมาณร้อยละ 90 และคาดว่าจะเริ่มทดสอบและดำเนินการผลิตได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 นอกจากนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และต่อเนื่องความจีรังยั่งยืนของธุรกิจ ในการประชุมเมื่อเดือนธันวาคม 2566 คณะกรรมการได้อนุมัติให้ลงทุนในการขยายกำลังการผลิตอิฐมวลเบาเพิ่มอีก 163,200 ตันต่อปี โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 648 ล้านบาท การก่อสร้างจะเริ่มประมาณกลางปี 2567 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2568 ในด้านการซ่อมแซมและบำรุงรักษาก็มีการดำเนินการต่อเนื่องเป็นปกติ เช่น มีการก่อสร้างเพิ่มเติมห้องแสดงสินค้าทั้งที่โรงงาน 1 และ โรงงาน 2 อนึ่งปีนี้บริษัทฯ ได้ซื้อที่ดินที่ติดกับโรงงาน 2 เพิ่มเติมมาอีก 25 ไร่ เพื่อเตรียมไว้สำหรับการขยายในอนาคต ทำให้มีที่ดินบริเวณ โรงงาน 1 และโรงงาน 2 รวมกันทั้งสิ้นกว่า 336 ไร่

ทางด้านบรรษัทภิบาล ปีนี้บริษัทฯ ได้รับรางวัล “หุ้นยั่งยืน” หรือ Thailand Sustainability Investment (“THSI”) ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 ตั้งแต่ปี 2560 และในปี 2566 ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปลี่ยนแปลงชื่อจาก THSI เป็น SET ESG Ratings โดยบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับ AA ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง และยังได้รับรางวัลอื่นๆ จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนอีกด้วย ส่วนผลการปฏิบัติงานของบริษัทฯ โดยทั่วไปก็ได้รับการประเมินในระดับที่สูงกว่ามาตรฐานของบริษัทจดทะเบียนทั้งตลาดในทุกหมวด

ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 นี้ คุณศักดา มณีรัตนฉัตรชัย กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ ขอลาออก ส่วนอีกท่านหนึ่งคือ คุณอนันต์ เล้าหเรณู กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และกรรมการ ก.ส.ต. จะครบวาระการเป็นกรรมการ และไม่ประสงค์จะรับเลือกตั้งเป็นกรรมการอีกต่อไป ทั้งสองท่านเป็นกรรมการตั้งแต่เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในธุรกิจของบริษัทฯ เป็นอย่างดี ได้ทุ่มเทกำลังให้บริษัทฯ ตลอดระยะเวลาที่เป็นกรรมการ ทำให้บริษัทฯ เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน คณะกรรมการจึงขอถือโอกาสนี้ แสดงความขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย สำหรับตำแหน่งกรรมการที่ว่างลง คณะกรรมการได้มีมติให้เสนอนายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งระดับประเทศและระดับโลก เคยเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีสมัยพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาเลือกตั้งเป็นกรรมการอิสระแทนนายอนันต์ เล้าหเรณู และอีกท่านหนึ่งคณะกรรมการได้มีมติแต่งตั้งนายจักร จุลเกียรติ มัณฑนากรรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและผลงานมากมายเป็นกรรมการอิสระแทนนาย ศักดา มณีรัตนฉัตรชัย เชื่อว่าทั้งสองท่านจะนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ มาช่วยพัฒนาให้การบริหารงานของคณะกรรมการเข้มแข็งขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน

ท้ายที่สุดคณะกรรมการขอแสดงความขอบคุณ ลูกค้าและผู้บริโภคสินค้าของบริษัทฯ ที่เข้าใจในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่ได้ยอมรับการปรับราคาสินค้าตามความจำเป็น และยังคงอุดหนุนสินค้าบริษัทฯ เหมือนเดิม ขอบคุณตัวแทนจำหน่ายทุกช่องทางที่ได้ช่วยกระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพจนทำให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ขอบคุณผู้บริหารและพนักงานทุกท่านที่ทุ่มเททำงานหนักในปีนี้เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา และขอบคุณผู้ถือหุ้นสำหรับกำลังใจ และความไว้วางใจที่มีให้ตลอดมา คณะกรรมการหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปี 2567 จะเป็นปีที่ดีกว่าปีที่แล้ว ทั้งสำหรับบริษัทฯ และสำหรับประเทศเป็นส่วนรวม

นายประกิต ประทีปะเสน
ประธานกรรมการ